ทริป 6 วัน
เกาะพีพี,เกาะรอก และเกาะลันตาПХИ-ПХИ, КО РОК, ЛАНТА
ภูเก็ต แปลว่า "อัญมณี" เกาะภูเก็ตเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความยาวเพียง 55 กิโลเมตรจากเหนือถึงใต้ และ 25 กิโลเมตรจากตะวันตกถึงตะวันออก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ต มากกว่าสิบล้านคน ภูเก็ตมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งบนบกและโดยเฉพาะทางทะเล และมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ผู้ที่ชื่นชอบการแล่นเรือตลอดทั้งปี มาที่นี่คุณสามารถเช่าเรือได้หลายระดับและหลายประเภท ตั้งเรือหางยาวพื้นบ้านไปจนถึงเรือยอร์ชสุดหรู คุณสามารถเช้าเรือแบบ One day trip หรือแม้กระทั้งจะเช่าเรือแบบเที่ยวรอบโลกก็ไม่มีปัญหาอีกด้วย ทุกอย่างอยู่ที่คุณเป็นคนเลือกและกำหนดเอง ท่าเรือยอร์ชที่นี่มีถึง 5 ท่าเรือ
และสถานที่อีกหลายๆที่ที่คุณจะสามารถเลือกหาซื้อเรือยอร์ชได้
ตัวอย่างดังต่อไปนี้เป็นแพลนการเดินทางคร่าวๆที่บริษัทเราได้ใช้เรือ Uhuru Bavaria 46 ในการเดินทาง 6 วัน ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ปี 2020
เริ่มออกทริปจากท่าเรืออ่าวปอ มารีน่า ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ต ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือที่ค่อนข้างใหม่ และพร้อมสำหรับรองรับเรือยอร์ช ที่นี่มีทุกอย่างครบครันทั้ง ร้านอาหารอร่อย ,ปั๊มน้ำมัน, เอทีเอ็ม ,แท็กซี่, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ,สระว่ายน้ำ ,บาร์ และสปา สำหรับนักท่องเที่ยว พนักงานที่ทำงานที่นี่ล้วนได้รับการคัดสรรและอบรมมาอย่างดีเพื่อมีทักษะในอาชีพบริการที่ดีที่สุดให้แก่นักท่องเที่ยว แม้กระทั่งคุณเช่าเรือยอร์ชที่ไม่ได้รวมลูกเรือไปด้วย หากคุณมีปัญหาใดๆในการออกทริป สามารถใช้วิทยุสื่อสารและหมุนไปยังช่อง 69 จะช่วยคุณปลอดภัยกลับมาถึงฝั่ง
เริ่มทริปจากท่าเรืออ่าวปอ มารีน่า ขนสัมภาระลงเรือ เช็คสภาพเครื่องยนต์ ระบบแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าต่างๆ ถังน้ำจืด น้ำมัน แบตเตอรี่ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ระบบต่างๆบนเรือ เช็คอิน และออกทะเล
อากาศที่ประเทศไทยมักจะร้อน กัปตันที่ดีควรศึกษาข้อมูลการพยากรณ์อากาศเป็นอย่างดี และต้องสังเกตทุกอย่าง 360 องศาเวลาปฏิบัติหน้าที่ เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
จากเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม มีลมจากทิศตะวันออก และเดือนอื่นๆส่วนใหญ่จะมีลมมาจากทิศตะวันตก ส่วนใหญ่เดือนที่ฝนตกเยอะที่สุดจะเป็นช่วงเดือนกันยายน และเดือนที่สบายที่สุดคือเดือน มิถุนายน กรกฎาคม ตุลาคม และพฤศจิกายน เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยและฝนไม่ตกมากอีกทั้งราคายังไม่แพงอีกด้วย
เรือยอร์ช Uhuru ของเราเดินทางจากอ่าวพังงา ความเร็วเรือแล่นอยู่ที่ 6 นอต ไปยังเกาะพีพี
อ่าวพังงาเป็นอ่าวที่กว้างมาก ตั้งอยู่ระหว่างภูเก็ตและกระบี่ และเกาะที่ได้รับความนิยมสูงสุดเทียบได้กับแมคโดนัล เพราะทั้งความนิยมและอร่อย คือ เกาะเจมส์บอล( เขาตะปู) ตั้งอยู่ทางเหนือของอ่าวพังงา
คุณสามารถเที่ยวในอ่าวพังงาได้หลายสัปดาห์โดยการย้ายจากเกาะนึง ไปยีงอีกเกาะ มีทัศนียภาพสวย และเป็นเกาะที่น่าสนใจ เพราะมีทั้งชายหาด ถ้ำ ลากูน และค้างคาวแม่ไก่ และยังมีที่ที่สามารถหลบลมได้ บางเกาะมีทั้งโรงแรมและร้านอาหาร มีหลายที่ที่ปลอดภัยสำหรับการค้างคืน ครั้งหนึ่งเพื่อนชาวยูเครนของผม เรียกว่าขนมสังขยา ที่อ่าวพังงาเรื่องการขึ้นลงของน้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการเคลื่อนตัวของน้ำทำให้น้ำไม่สวย ทางใต้ของอ่าวน้ำจะสวยกว่าทางเหนือเพราะอิทธิพลของน้ำขึ้นน้ำลงและความลึกตื้นของน้ำ ยิ่งมางใต้ของมหาสมุทรเท่าไหร่ น้ำยิ่งใสสะอาดมากขึ้นเท่านั้น เราอาจเปรียบเทียบได้กับเกาะหลีเป๊ะ และอ่าวพังงา เพราะเกาะหลีเป๊ะอยู่ทางใต้ของมหาสมุทรมากกว่าอ่าวพังงา
จุดหมายของเราคือ เกาะรอก ห่างออกไป 60 ไมล์จากทางตะวันตกของมารีน่า เราว่งแผนที่จะไปถึงที่นั่นภายในเวลา 2 วัน และแวะพักค้างคืนหนึ่งคืนที่เกาะพีพี ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากออกเรือจากมารีน่า เราเริ่มเห็นเกาะพีพี จากระยะไกลๆ ปกติแล้วจะมีเรือเยอะมากทั้งเรือยอร์ช เรือหางยาว เรือสำหรับนักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งเรือหาปลาบริเวณนี้ ทุกลำต่างมีจุดหมายที่ต่างกัน และมีตาข่ายดักปลามากมายบริเวณนี้อีกด้วย ผมรู้สึกว่าตอนนี้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย แม้กระทั่งปลา เพราะทุกคนกลัวโควิด แต่แสงแดดที่นี้ร้อนมาก จึงฆ่าเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย และทำให้เรือเก่าง่ายด้วยจึงต้องดูแลเรือมากเป็นพิเศษ
ห้าชั่วโมงไปยังเกาะพีพีในตำนาน ทอดสมอที่ลากูนทางใต้ของเกาะพีพี ที่นี่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและเป็นสถานที่สุดพิเศษสำหรบวันหยุด เกาะพีพียังเคยมีภาพยนตร์มาถ่ายทำเรือง "เดอะบีช" เกาะพีพี ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่ไม่เคยหลับเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่นี่ ทั้งบาร์ต่างๆ ร้านอาหาร โรงแรม คลับ สปา การแสดงควงไฟ โดดเด่นที่สุดคือการที่มีถังขนาดใหญ่ใส่แอลกฮอล์ก ควันมากมาย และคนที่มองหาความรู้สึกแปลกใหม่ แต่เวลาเช้าทุกคนก็ยังสามารถกลับมาสู่ชีวิตปกติทั้งที่ว่ายน้ำและอาบแดดที่หาด ไปเรือเพื่อไปดำน้ำหรืตกปลา และโรงแรม ทุกคนสนุกและมีความสุขกับเกาะสวรรค์บนดินนี ธรรมชาติของที่นี่สวยดั่งเทพนิยาย
เราเดินบนเกาะหลังจากกินปลาเสร็จ ดูพระอาทิตย์ตกดิน และกลับไปเรอยอร์ช Uhuru กลางคลื่นในอ่าวกลางทะเลบริเวรเกาะพีพี สวย สงบ เงียบ ลมเบาๆ คลื่นสงบ ฟังเสียงละหมาดจากชาวมุสลิมบนหาด บนฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว ความสบายที่ได้พักผ่อนบนยอร์ช ไฟอุ่น บรรยากาศบนเรือ จิบชาร้อน และเล่านิทานให้ลูกๆฟังก่อนนอน
ตอนเช้าเวลา 6.00น. อากาศเย็นสบาย แสงแดดอบอุ่น ในทุกๆเช้าท้องฟ้าของอ่าวพีพีได้ถูกทาทับด้วยสีฟ้า สีเขียว และสีชมพูตามธรรมชาติ ไม่มีลมเลย ได้ยินเสียงเริ่มวันใหม่ของเรือหางยาวที่แล่นไปมา นักท่องเที่ยวที่กำลังเร่งรีบเพื่อไปดำน้ำในตอนเช้า
ลูกสาวของผมยังคงนอนหลับอยู่ ผมเช็คความเรียบร้อย อุ่นเครื่องยนต์ของเรือ และออกทะเลอีกครั้ง สถานีต่อไปคือเกาะรอก ระยะทาง 35 NM ไปทาง150 ในทางที่เราไปมีลม ผมเลยตั้งใจจะวงรอกตกปลา บริเวณเกาะห้าใหญ่ มีปลาจำนวนมาก บนน้ำทะเลใสผมเห็นแต่ขยะที่เห็นขยะพลาสติกจำนวนมากลอยยาวเป็นกิโลที่มาจากทะเลมาเลเซียโดยลมที่พัดมาจากทางใต้ และนี่เป็นเหตุผลที่ผมยกอุปกรณ์ตกปลาออก ผมเคยได้ยินว่าบางที่บนมหาสมุทรมีเกาะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยขยะ แต่รัฐบาลไทยรักษาทะเลไทยได้อย่างดีและสะอาด
เรือยอร์ช UHURU กำลังมุ่งหน้าไปทางใต้ เราหยุดเรือใกล้ลากูนบริเวณเกาะห้าใหญ่ ที่นั่นสวยมาก 6หินเล็กที่โผล่จากทะเล ปกคลุมด้วยหญ้าและล้อมรอบด้วยทรายสีขาว มองจากข้างนอกเกาะแห่งนี้ดูเหมือนเขาหินดอกไม้บนมหาสมุทรอินเดีย วันนี้คลื่นค่อนข้างสูงแต่ไม่แรงมาก มีนกต่างๆบินวน บินเล่นรอบๆ และเมื่อคุณต้องการถ่ายรูป ทุกรูปที่ได้สวยจนคุณสามารถจะใช้เป็นโปสการ์ดได้เลย อย่าตกใจหากเห็นนกที่เหมือนมาจากเทพนิยาย
เราอยู่ที่นี่กันไม่นาน เล่นรูปเล่น ว่ายน้ำและเริ่มออกทะเลอีกครั้ง ผมดีใจที่คิดว่าจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน
ครั้งนี้เราไม่เห็นโลมาหรือปลากระเบนราหู แต่พวกมันอาศัยอยู่บริเวณนี้ หรือแม่กระทั้งปลาวาฬ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่จะได้เห็นหลังสีดำและท้องสีขาวของพวกมัน ปากของพวกมันใหญ่มาก ช่างเป็นภาพสวยงามของธรรมชาติ
ผมขับเรือไปพลางดูธรรมชาติรอบๆ ได้กลิ่นอายทะเล และได้เดินทางมาถึงเกาะรอก ที่นั่นมีปะการังและหินจำนวนมาก เราเลยตัดสินใจทอดสมอเรือ เพราะมีหินมากมายอันตรายใต้ท้องเรือ และอันตรายสำหรับคนที่ต้องการดำน้ำอีกด้วย ผมขอเตือนว่า อย่ากระโดดน้ำบริเวณที่คุณไม่รู้จัก เพราะทะเลเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างอันตราย เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทริปที่ดีคือทริปที่ปลอดภัย และนี่เป็นเหตุผลที่ควรต้องฟังคำแนะนำจากลูกเรือและปฏิบัติตามของบริษัท ZEA Sailing และ Phuket Yachting.
ตามแผนที่วางไว้ เราต้องพักที่นี่เป็นเวลาสองวัน แต่เราเห็นเรือของพนักงานอุทยาน พวกเขาให้เราออกจากอุทยานภายใน 7.00น.ของวันถัดไป เพราะอุทยานนี้ปิดจนถึงเดือนตุลาคม
เกาะรอกเป็นเกาะที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างมาก แต่เกาะที่อยู่ทางตะวันออกของเกาะรอกมีคนอาศัยจำนวนมาก มีโรงแรมและร้านอาหาร เสาสัญญาณโทรศัพท์ GSM, GPS, GPRS ที่นี่ไม่มีนักท่องเที่ยวมากเพราะไกลจากแผ่นดินใหญ่ น้ำทะเลที่นี่สะอาดมาก หาดทรายขาว ปะการังและปลาเยอะ หากคุณต้องการจะเที่ยวที่นี่อย่างเต็มที คุณต้องอยู่ที่นี่สองถึงสามวัน หลังจากดูพระอาทิตตกดิน เราก็เริ่มทานอาหารมื้อค่ำ
ในเวากลางคืน ลมพัดแรงถึง 20 นอต คลื่นค่อนข้างแรงทำให้เราที่จอดอยู่คลอน เรารู้สึกเหมือนเป็นเด็กที่นอนในเปล
เราเป็นคนรัสเซียที่ดี ก่อนเจ็ดโมงเช้าเราได้ออกทะเลเรียบร้อยแล้ว มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก เกาะลันตา ไม่มีลม แดดจ้า และอุ่น บริเวณเกาะกระดาน เราดับเครื่องยนต์จอดเรือนิ่งและว่ายน้ำ จากนั้นเราย้ายไปยังเกาะมุกและทอดสมอ เริ่มสำรวจเกาะ หาดทรายสวยและธรรมชาติป่าของเกาะ มีลำธารขนาดเล็ก ช่างเป็นที่ที่สวยมาก ผมนำเรือยางใช้เครื่องยนต์ของ SUZUKI 6 และถึงชายหาดในเวลาแค่ห้านาที วิวสวย ภาพชายหาดที่มีรอยเท้าของปู ใครทำ
เราเห็นปูเล็กๆ อาศัยอยู่ในรูของมัน และออกจากรูของมัน ผมได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย คลื่นพัดทำลายรูของพวกมัน แต่มันก็สร้างรูขึ้นมาใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนที่ลูกสาวของผมกำลังเดินบนชายหาด และถ่ายรูป เพราะว่ายน้ำห่างออกไป 3 เมตร ไม่มีหิน น้ำทะเลขุ่น ที่นี่เราไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
เราตัดสินใจเดินเรือไปทางใต้ของเกาะ แต่ไม่แนะนำให้คุณไปเพราะไม่มีอะไรน่าสนใจ จากนั้นเราจึงมุ่งหน้าไปทางเหนือเพื่อไปเกาะลันตา ครั้งล่าสุดที่เราเคยมาที่นี่เมื่อสี่ปีมาแล้ว
ก่อนพระทิตตกดินเราเดินทางมาถึงเกาะลันตา ทอดสมอ ที่นี่เงียบสงบและปลอดภัย ความลึกประมาณ 5 เมตร น้ำทะเลสีเขียวเนื่องจากโคลนนี่คือเหตุผลคุณต้องปักสมอเรือลงไปลึกๆ เพราะไม่งั้นเรือของคุณจะเคลื่อนตามลมเพราะปักสมไม่แน่นพอ
ตอนเย็นอากาศอุ่นสบาย บรรยากาศบนเรือ แสงไฟสลัว อาหารมื้อค่ำสุดอร่อย จิบชา และเล่านิทานก่อนนอนสำหรับลูกๆ